แทงบอล บอลสเต็ป เกมเดิมพันฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากสำหรับนักแทงบอลออนไลน์ทั้งหน้าใหม่จนถึงระดับเซียน เพราะเป็นเกมเดิมพันที่ผู้เล่นสามารถลงทุนขั้นต่ำในจำนวนที่น้อย แต่ผลตอบแทนกลับมานั้นมีสูงเป็นหลายเท่าตัว
หลายคนน่าจะเคยรู้จักการเดิมพันบอลกันบ้างแล้ว ว่าสามารถเดิมพันได้ทั้งบอลเดี่ยวและบอลชุด โดยรูปแบบการ แทงบอล ทั้ง 2 แบบนี้ต่างกันแทบจะสิ้นเชิง ทั้งวิธีการเดิมพัน และกำไรที่กลับก็มาต่างกัน แต่ที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ผู้เดิมพันจะต้องทายให้ได้ว่าในแมชการแข่งขันฟุตบอลที่ทายไปนั้น ทีมไหนจะเป็นฝ่ายชนะ

ทำความรู้จักกับการ แทงบอล แทงบอลสเต็ป
ในบทความนี้ sexygame-sub จะพาคุณมาทำความรู้จักกับการแทงบอลให้มากขึ้น แล้วถ้าอยากเล่นเดิมพันแล้วจะมีวิธีการคำนวณจำนวนเงินยังไงบ้าง และสำหรับมือใหม่ที่อยากเล่นบอลแบบสเต็ปให้ได้กำไร มาดูกันว่าสูตรการเล่นบอลชุดมีอะไรบ้าง
เป็นการเดิมพันอีกรูปแบบหนึ่งของการทายผลบอล โดยต่างจากการเดิมพันแบบบอลเดี่ยวหรือบอลเต็ง เพราะจะต้องทายผลทีมที่ชนะมากกว่า 1 ทีมในแต่ละบิล ทำให้เล่นยากกว่าบอลเดี่ยวแต่ถ้าเกิดว่าชนะจะได้เงินมากกว่า
แทงบอลแบบสเต็ปคืออะไร
บอลชุดหรืออีกชื่อหนึ่งว่า บอลชุด เป็นการ แทงบอล แบบ Mix Parley ซึ่งเป็นการทายผลแบบหลายคู่การแข่งขัน โดยในแต่ละวันการแข่งขันฟุตบอลจะเกิดขึ้นหลายแมชและหลายลีค ทางเจ้ามือจึงมีการจัดทำโพยบอลที่รวมเอาการแข่งขันของวันนั้น มาให้ผู้พนันทำการเดิมพันตามจำนวนคู่ที่กำหนด
ซึ่งการเดิมพันบอลแบบสเต็ปส่วนใหญ่จะบังคับให้เดิมพันตั้งแต่ 3 คู่ขึ้นไป โดยบ้างเจ้าก็กำหนดให้เล่นได้สูงถึง 10 คู่เลยทีเดียว ซึ่งถ้าผู้พนันทายผลถูกครบทุกคู่ก็จะชนะรางวัล แต่ถ้าทายผิดแม้แต่คู่เดียวก็จะถือว่าแพ้และต้องเสียเงินเดิมพันทันที
บอลชุด บอลสเต็ปออนไลน์ เล่นยังไง
สำหรับการเล่นบอลชุดออนไลน์จะคล้ายกับการเล่นแบบติ๊กบนโพย แต่การเล่นบนออนไลน์ไม่มีการบังคับว่าจะต้องเล่นสูงสุดกี่คู่ แต่มีการกำหนดขั้นต่ำอยู่ที่ 3 คู่ขึ้นไป โดยวิธีการเล่นคือเข้าไปดูตารางการแข่งขันของวันนั้นว่ามีทีมไหนแข่งกันบ้าง แล้วเลือกแทงอย่างน้อย 3 คู่และวางเงินเดิมพัน เช่น
เลือกเดิมพัน 3 คู่โดยวางเงินเดิมพันที่ 100 บาท และทั้งสามคู่มีอัตราคูณอยู่ที่ 1.67, 1.98, 1.50 ถ้าเกิดว่าทายถูกหมดทั้ง 3 คู่จะได้เงินรางวัล คือ
100 (เงินเดิมพัน) x 1.67 x 1.98 x 1.50 = 495.99 บาท จะเห็นได้ว่าการเล่นบอลชุดเพียง 3 คู่ก็ได้เงินถึงเกือบ 4 เท่าเลยทีเดียว
แต่การแทงบอลก็ยังมีกติกาที่ช่วยให้ผู้เล่นหลายคู่ไม่เสียเงินเดิมพันไปจนหมด ในกรณีที่เดาไม่ถูก โดยการใช้อัตราต่อรางบอลเข้ามาช่วย

สูตรการเล่นบอลบอลแบบสเต็ป
สำหรับสูตรการเล่นบอลเสต็ปให้ชนะทั้งตาราง จะต้องรู้ก่อนว่าทีมที่จะเลือกเดิมพันนั้นมีโอกาสชนะมากแค่ไหน ซึ่งผู้เล่นจะต้องไปศึกษาทีมต่างๆ ของตารางในวันนั้นมาก่อน เพราะการเดิมพันแบบใส่ไปตามความชอบหรือความคิดของตัวคุณเองนั้น จะทำให้โอกาสการชนะเดิมพันลดลง โดยสูตรการเล่นบอลสเต็ปแบ่งออกเป็น 3 เทคนิคคือ
- การเลือกทีมที่จะเดิมพัน
- การใช้เทคนิคเปิดดูสถิติย้อนหลัง
- การใช้ความน่าจะเป็น
การเลือกทีมที่จะเดิมพัน
- เลือกจากอัตราต่อรองแบบ ครึ่งควบลูก, ลูกควบลูกครึ่ง, 1 ลูก เพื่อให้มีโอกาสได้เงินเมื่อแพ้หรือโดนหักเพียงครึ่งเดียว
- ดูจากความเป็นไปได้ของสถิติมากกว่าความชอบส่วนตัว
- หลีกเลี่ยงลีคเล็กๆ
- เลือกเล่นวันที่มีการแข่งขันหลายคู่เพื่อจะได้มีทางเลือกที่หลากหลาย
- ทีมเจ้าบ้านมีโอกาสชนะมากกว่าทีมเยือน ยกเว้นว่าดูจากสถิติแล้วทีมเยือนเก่งมากกว่าจริงๆ
- เก็บคู่สุดท้ายเอาไว้ลุ้น เช่น ได้บอลแบบสเต็ปมาแล้ว 3 คู่ ก็อาจจะเลือกเล่นคู่สุดท้ายของวันนั้นเป็นแบบบอลเดี่ยว เพื่อเพิ่มโอกาสการได้กำไรมากขึ้น
ใช้เทคนิคการเปิดสถิติย้อนหลัง
สำหรับเกมการเดิมพันโดยวิเคราะห์จากข้อมูลย้อนหลังช่วยได้เสมอ เพราะจะเป็นเหมือนการบันทึกเอาไว้ให้เห็นว่าทีมไหนมีโอกาสชนะได้มากกว่า โดยมีวิธีการเปิดดูดังนี้
- ดูตารางการแข่งขันในวันที่จะเดิมพันก่อนว่าทีมไหนจะลงแข่งบ้าง
- เลือกจำนวนคู่ที่ต้องการเดิมพันมา โดยเริ่มตั้งตั้ง 3 คู่ไปจนถึง 5 คู่จะเป็นตัวเลขที่มีโอกาสทำให้ชนะเดิมพันได้
- ย้อนดูสถิติการแข่งขันของคู่ที่เลือกเดิมพัน ถอยหลังไปอย่างน้อย 10 นัด ดูว่าทีมไหนมีสถิติการชนะมากกว่าและชนะไปด้วยสกอร์เท่าไหร่ ซึ่งทีมที่น่าเลือกเดิมพันควรเลือกทีมที่มีการชนะบอลมากกว่า 6 ครั้งขึ้นไป
- ทำไปจนครบทุกคู่ที่เลือกเดิมพัน
- เช็คราคาต่อรองว่าผ่านหรือไม่ และทำการเลือกเดิมพัน
- จากนั้นรอลุ้นผลได้เลย
ใช้ความน่าจะเป็นเข้ามาช่วย
สำหรับการเดิมพันบอลชุดหรือบอลแบบสเต็ปด้วยความน่าจะเป็น จะใช้วิธีเริ่มต้นคล้ายกับวิธีเปิดดูสถิติย้อนหลัง โดยเลือกทีมที่คิดว่าจะมีโอกาสชนะมาสัก 3-5 ทีม จากนั้นทำการจับคู่
เช่น จับคู่แบบ 3 ทีมที่ต้องการ จาก 5 ทีม จะได้รูปแบบการเดิมพันออกมา 10 แบบได้แก่
1-2-3
1-2-4
1-2-5
1-3-4
1-3-5
1-4-5
2-3-4
2-3-5
2-4-5
3-4-5
จากนั้นกำหนดเงินทุนว่าจะเดิมพันแต่ละชุดเท่าไหร่ เช่น 100 บาท x 10 ชุด = ใช้ต้นทุน 1,000 บาท
จากนั้นมาดูอัตราบอลของแต่ละทีมที่เลือก ซึ่งถ้าหากแต่ละทีมที่เลือกมีอัตราอยู่ที่
1.86, 1.65, 1.99, 1.93, 1.75
ถ้าคิดแบบอัตราต่ำสุด 1.65 x 1.75 x 1.86 = 5.73 คูณกับต้นทุนต่อชุด 100 = 537
ถ้าคิดแบบอัตราสูงสุด 1.86 x 1.93 x 1.99 = 7.1434 คูณกับต้นทุนต่อชุด 100 = 714.34
จะเห็นได้ว่าการซื้อทั้งหมด 10 รูปแบบ ถ้ามีการชนะอย่างน้อย 2 รูปแบบ ก็จะได้เงินทุนคืนมาแล้ว 1,000 บาท แล้วที่เหลือจะเป็นกำไร